บทที่ 1 เขาคงรักแฟนของเขาน่าดูเลยน้าาาาา

"คุณสิงห์คะ"

"ครับ? ว่าไงครับป้าภา" ชายหนุ่มเจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา สองมือของหญิงชรากุมกระชับเข้าหากันแน่นด้วยความกังวลใจ

"ป้า...ป้ามาขอลาออกค่ะคุณสิงห์" สิงห์ หรือ สิงหราช รู้สึกเหมือนฟ้าถล่มดินทลายลงตรงหน้า ปากกาที่ถืออยู่ในมือพลันหลุดร่วงลงอย่างไม่อาจควบคุม ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ละล่ำละลักถามออกไปในทันที

"ทำไมล่ะครับป้าภา ติดปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ ป้าบอกผมมาได้เลยนะครับ"

"ป้าไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกค่ะคุณสิงห์ เพียงแต่ลูกสาวเขาไม่อยากให้ทำงานที่นี่แล้ว เขาอยากให้กลับไปอยู่บ้านพักผ่อน หากเบื่อๆ ก็เข้าสวนไปปลูกต้นไม้ พอเหนื่อยก็มานั่งพักพูดคุยกับเพื่อนบ้าน ตอนนี้ลูกสาวป้าเขาได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ เลยอยากให้ป้าพักผ่อนสบายๆ บ้างน่ะค่ะ"

"ป้าภา...." สิงห์เรียกชื่อของหญิงสาวด้วยท่าทีเหงาหงอย บ้านของเขาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง และนั่นทำให้ครอบครัวของเขาไม่สนิทกันอย่างที่ควร บิดามารดาต่างเป็นนักธุรกิจด้วยกันทั้งคู่ รวมถึงพี่ชาย พี่สาว และตัวเขาด้วย บ้านเขาประกอบธุรกิจหลากหลายอย่างตามความถนัดของตน บ้างก็เปิดเป็นโรงงานกระดาษ บ้างก็เป็นบริษัทอุปกรณ์ไอที บ้างก็ทำธุรกิจโรงแรม เรียกได้ว่าทำธุรกิจกันทั้งบ้าน แล้วแต่ว่าชอบสิ่งไหน เพราะยังไงก็มีเงินทุนสนับสนุนให้ได้อยู่แล้ว อยากทำอะไรก็ทำเลยไม่มีใครว่า

และเพราะแบบนั้นทำให้ครอบครัวของเขาไม่ค่อยสนิทกันอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นเขาจึงมีป้าภาที่เป็นเหมือนพี่เลี้ยงคอยดูแลมาตั้งแต่เล็กจนโต และไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยปากว่าขอลาออกให้ได้ยิน

"เดี๋ยวป้าจะเร่งหาคนมาแทนให้นะคะคุณสิงห์"

"ป้าภาจะไปเมื่อไหร่ครับ"

"อีก 2 อาทิตย์ค่ะคุณสิงห์ ป้าต้องขอโทษด้วยนะคะ ลูกสาวป้ามันส่งตั๋วเครื่องบินมาให้แล้วน่ะค่ะ" หญิงสาวพูดพลางยกมือขึ้นไหว้ขอโทษขอโพยจนสิงหราชยกมือขึ้นรับไหว้แทบไม่ทัน อีกทั้งยังเอ่ยปากโวยวาย

"ป้าภาอย่าไหว้ผมเลยครับ แบบนี้ผมก็อายุสั้นกันพอดี" สิงหราชพูดด้วยความลำบากใจ ก่อนจะยินยอมพยักหน้ารับอย่างจำใจเป็นที่สุด

"ป้าภาออกแล้วอย่าลืมติดต่อมาหาผมบ้างนะครับ ผมเองก็จะพยายามติดต่อป้าภาบ่อยๆ เหมือนกัน" หญิงสาวตรงหน้าเผยรอยยิ้มอ่อนโยน เอ่ยบอกด้วยเสียงหวานนุ่มละมุนจนชายหนุ่มอุ่นซ่านไปทั่วทั้งหัวใจ

"ได้ค่ะคุณสิงห์ ป้าเองก็รักคุณสิงห์เหมือนลูกเหมือนหลาน ป้าจะพยายามเร่งหาคนมาแทนให้นะคะ" ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเผยยิ้มบาง และพยักหน้ารับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าป้าภาจะหาคนมาทำหน้าที่แทนตนได้โดยไว

เขาเป็นพวกบ้างาน อีกทั้งฐานะทางบ้านก็ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะอาหารการกิน การทำความสะอาดและการจัดเตรียมสิ่งของ ดังนั้นเรื่องงานบ้านจึงไม่เคยได้แตะต้องแม้แต่น้อย หน้าที่ของเขาเมื่อวัยเด็กคือการเล่นให้สมกับเป็นเด็ก โตขึ้นมาอีกหน่อยก็ใช้ชีวิตให้สมกับที่เป็นวัยรุ่น และเมื่อเริ่มเติบใหญ่จนอายุย่างก้าวเข้าใกล้วัย 30 เขาก็มุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นผู้บริหารเต็มตัว มันคงจะไม่แปลกหากเขาทำอาหารไม่เป็น ซักผ้าเองไม่สะอาด เพราะคอยมีคนทำให้อยู่ไม่ขาด และคนที่ทำได้เรียบร้อยถูกใจก็มีน้อยเหลือเกิน

คิดพลางก้มหน้าก้มตาทำงานของตนเองต่อไป ในขณะที่ป้าภาก็ขอตัวไปจัดเตรียมข้าวของและทำความสะอาด พร้อมๆ กับการตระเตรียมมื้อเย็นที่เอามาจากบ้านใหญ่ให้เขาไปด้วย

เขาอยู่อาศัยที่คอนโดหรูใจกลางเมือง เพราะมันง่ายและสะดวกต่อการเดินทาง จึงไม่อยากไปๆ มาๆ ระหว่างที่ทำงานกับบ้านสักเท่าไหร่ ดังนั้นแล้วคนที่ทำหน้าที่จะเตรียมอาหารให้คือป้าภาที่หอบหิ้วมาจากบ้านใหญ่ หรือการซื้อของใช้ต่างๆ ก็คือป้าภา และคนที่ซักทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือการรีดจนมันเรียบกริ๊บก็คือหญิงสาวอีกเช่นกัน

เขาคิดชีวิตที่ไม่มีป้าภาคอยช่วยจัดการงานต่างๆ นานา ไม่ออกเลยแม้แต่น้อย........

2 สัปดาห์ผ่านไป

จากเดิมที่เขาคิดไม่ออกถึงชีวิตที่ไม่มีป้าภาคอยช่วย มาบัดนี้เขากลับมองเห็นมันได้อย่างแจ่มแจ้งเห็นชัด นั่นก็เพราะป้าภาไม่สามารถหาคนมาทำงานแทนตนได้อย่างที่พูดไว้ ความจริงแล้วป้าภาพาใครต่อใครหลายคนมาแนะนำ แต่เป็นเขาเองที่บอกปัดและไม่ต้องการ เพราะคนเหล่านั้นทำงานได้ไม่ถูกใจ จนป้าภาต้องหาคนใหม่มาแทนอยู่เรื่อยๆ

จวบจนกระทั่งวันสุดท้ายของการทำงาน ก็ยังไม่อาจหาใครมาแทนที่ได้อย่างใจหวัง ป้าภายกมือไหว้ขอโทษเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเขาต้องรวบตัวหญิงชราเข้ามาไว้ในอ้อมกอด เอ่ยปลอบใจอีกสองสามประโยค ป้าภาถึงได้มีอาการดีขึ้นและความรู้สึกผิดที่ลดน้อยลง สิงหราชกล่าวกับหญิงสาวว่าเขาจะดูแลเรื่องเหล่านี้เอง ไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะย่ำแย่จนถึงกับขนาดใช้ชีวิตคนเดียวไม่ได้เชียวหรือ

และแล้วสิงหราชก็รู้ว่าเขาคิดผิด เขาไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้โดยไม่มีใครช่วยจัดการ!!! เขาทำงานทุกวัน วันจันทร์ถึงศุกร์จะเข้าบริษัทเพื่อไปทำงานเหมือนพนักงานออฟฟิศทั่วไป แต่เพราะเป็นผู้บริหาร ทำให้เขาไม่ค่อยได้มีเวลาพักจริงๆ จังๆ เพราะบางครั้งที่บริษัทก็เปิดทำงานทั้งเสาร์และอาทิตย์ ทำให้มีเรื่องวิ่งเข้าหาเขาไม่หยุดหย่อน

ปัญหาแรกของเขาเป็นเรื่องของปากท้องและการจัดการขยะ

จากเดิมที่ได้ทานอาหารจากบ้านใหญ่บ้างเป็นครั้งคราว บัดนี้กลับกลายเป็นว่าแวะเข้าร้านอาหารตามรายทาง สั่งข้าวกล่อง หรืออาหารแช่แข็งมานั่งกิน พอทานแล้วก็เอาไปทิ้งถังขยะ และปัญหาแรกก็เกิดขึ้นเมื่อมันสะสมมากๆ เข้าจนล้นออกจากถัง ทำให้สิงหราชต้องเสียเวลาอยู่นานในการตามหาถุงขยะใบใหม่มาเปลี่ยน หลังจากยกถุงขยะขึ้นแล้วเขาก็มัดปากถุง แต่ไม่รู้ว่าจะต้องไปทิ้งที่ตรงไหน จึงได้แต่หิวถุงขยะพร้อมกับกระเป๋าเอกสารและแม็กบุ๊กออกจากคอนโดด้วยสภาพที่ดูไม่จืด นำมันไปทิ้งที่ถังขยะใบใหญ่ด้านหน้าคอนโด

ปัญหาที่สองของเขาตามมาติดๆ เมื่อเขาซักผ้าไม่เป็น.......

กว่าจะกดปุ่มซักผ้าได้ก็ใช้เวลาไปมากโข แต่พอเครื่องเริ่มทำงานแล้วมันก็สั่นกึกๆๆ อย่างรุนแรง พร้อมกับค่อยๆ ขยับออกจากจุดที่เคยวางตั้งไว้แต่แรก จนแลดูคล้ายกับเป็นปีศาจเครื่องซักผ้าในการ์ตูน สุดท้ายแล้วสิงหราชก็ตัดสินใจกดปิดเครื่องและทำการซักมือ มันทำให้มือของเขาแดงก่ำไปหมด เนื้อตัวเต็มไปด้วยผงซักฟอก ฟอง และเปียกม่อล่อกม่อแล่ก ทำให้เขาเลือกที่จะงดเว้นการทำความสะอาดชุดที่แสนสำคัญของตนไปเลย

ปัญหาที่สามตามมาไม่หยุด เมื่อเขารีดผ้าไม่เป็น......

เขาเองก็ไม่รู้ว่าตนเองทำผิดพลาดที่ตรงไหน เมื่อชุดที่เขารีดเองนั้นเป็นรอยไหม้จนเนื้อผ้าทะลุลงที่ด้านล่าง และมันเป็นแบบนั้นจนกระทั่งตัวที่ 3 ทำให้เขาล้มเลิกความคิดที่จะรีดผ้าเองเป็นชิ้นที่ 4 และนั่นทำให้เขาต้องสวมใส่เสื้อผ้ายับๆ ไปทำงานแทน มันทำให้เขาหมดความมั่นใจและความน่าเคารพนับถือ เพราะยามที่เดินเข้าไปภายในบริษัทวันแรก เขาก็ถูกสายตาจากพนักงานและคนรอบข้างหันมองกันเป็นแถว และหนึ่งในนั้นก็คือ....

"ผมว่าบอสน่าหาแม่บ้านสักคนมาทำงานแทนชั่วคราวก่อนนะครับ" ณคุณ หรือ คุณ เลขาคนสนิทของเขาเอ่ยปากพร้อมๆ กับวางเอกสารลงตรงหน้า สิงหราชถอนหายใจก่อนจะเอ่ยบอก

"ผมพยายามหาแล้ว แต่ไม่มีใครเข้าตาผมเลย"

"บอสต้องลดมาตรฐานตัวเองนะครับ เพราะจะหาคนที่ทำงานได้เนี้ยบไร้ที่ติดเหมือนคุณภาคงจะยาก"

"ถ้าผมลดมาตรฐาน นั่นหมายถึงผมจะได้การบริการที่ด้อยคุณภาพลงใช่รึเปล่าคุณคุณ ถ้าเปรียบเทียบเหมือนกับบริษัทแห่งนี้ ที่บอกว่าไม่สามารถหาของตามสเปกได้ ช่วยลดเกรดลงหน่อยได้ไหม ถ้าลูกค้าเขาไม่ต้องการแล้วคุณจะขายของให้ใครล่ะครับ" สิงหราชยกมือขึ้นนวดขมับตัวเอง ทำให้ณคุณถอนหายใจ แล้วจึงเอ่ยปากแนะนำแก้ปัญหาไปทีละจุด

"เรื่องของการทิ้งขยะ หรือการทำความสะอาดทั่วๆ ไปอย่างปัดกวาดเช็ดถูก จ้างแม้บ้านคอนโดเข้ามาทำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งก็ยังดีนะครับ

ส่วนเรื่องของเสื้อผ้านั้น ผมเห็นว่าใต้คอนโดคุณสิงห์มีร้านซักรีดเปิดใหม่ น่าจะลองไปใช้บริการดูนะครับ คงจะแก้ปัญหาให้คุณได้ถึง 2 ข้อ เลยทีเดียว" สิงหราชพยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยบอก

"แล้วผมจะคิดดูอีกที"

3 วันถัดมา.....

ถึงแม้เขาจะพูดออกไปแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงแล้วเขาแทบจะอยากพุ่งไปจัดการตามที่เลขาคนสนิทแนะนำมาตั้งแต่วันแรก แต่เพราะงานที่พันรัดตัวจนเขาไม่สามารถหาเวลามาจัดการได้ จึงต้องรอให้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แล้วจึงติดต่อกับทางนิติของคอนโดให้จัดส่งแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดทุกสัปดาห์จนกว่าเขาจะแจ้งหยุดให้บริการ

หลังจากนั้นจึงถือตะกร้าผ้าสองใบมุ่งตรงไปที่ร้านให้บริการซักรีดภายใต้คอนโด เมื่อเข้ามาแล้วก็ได้กลิ่นหอมของผงซักฟอก และน้ำยาปรับผ้านุ่ม ฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่ สิงหราชกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อให้พนักงานผู้ให้บริการ แต่เมื่อไม่เห็นใครเขาจึงต้องเอ่ยปากร้องเรียกแทน

"ขอโทษนะครับ"

"คร้าบบบบบ มาแล้วครับ!" สิงหราชเห็นชายคนหนึ่งที่ดูแล้วคงจะอายุน้อยกว่าตนราว 5 - 6 ปี วิ่งออกมาจากด้านใน ก่อนจะเอ่ยทักเสียงใสอย่างคนอารมณ์ดี

"สวัสดีครับ! ต้องการจะซักผ้าใช่ไหมครับ" สิงหาราชพยักหน้ารับ ก่อนจะส่งผ้าตะกร้าแรกให้ไปก่อน

"อันนี้ซักแบบธรรมดาได้ครับ แต่ระวังชุดสูทและเสื้อเชิ้ตสักหน่อย ไม่ปั่นนานจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ด้ายรุ่ยครับ" กล่าวจบก็ส่งอีกตะกร้าไปให้

"ตะกร้านี้เป็นชั้นใน คุณรับทำความสะอาดไหมครับ?"

"รับครับ" ชายหนุ่มรุ่นน้องตอบรับด้วยรอยยิ้ม ทำให้สิงหราชพยักหน้ารับ เพราะคราแรกเขาเกรงใจอีกฝ่ายที่ต้องมานั่งซักชั้นในให้คนที่ไม่รู้จัก แต่หากอีกฝ่ายตอบว่ารับแสดงว่าคนอื่นก็คงจะส่งซักเหมือนกัน

"อันนี้ขอให้ซักมืออย่างถนอมนะครับ ระวังอย่างขยี้แรงหรือทำให้ยางยืดเด็ดขาด เอาเข้าเครื่องไม่ได้เพราะเนื้อผ้าจะเสียหาย เวลาตากให้ตากในที่ร่มนะครับ ห้ามเอาเข้าเครื่องอบหรือตากแดดเป็นเวลานาน มันอาจจะทำให้ขึ้นราหรือผ้ายืดกรอบได้ ขอให้คุณดูแลมันเป็นพิเศษให้ทีนะครับ" ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาอ่านป้ายชื่อได้ว่า เตโช ก้มมองชั้นในภายในตะกร้าที่เขารีเควสว่าต้องการให้ดูแลเป็นพิเศษพยักหน้ารับ กล่าวด้วยรอยยิ้ม

"รับทราบครับ วันพรุ่งนี้ช่วงเย็นเข้ามารับได้เลยนะครับ เพราะเงื่อนไขที่คุณแจ้งมาอาจจะทำให้ต้องใช้เวลาในการซักและตากแห้งนานสักหน่อย ดังนั้นแล้วจึงเสร็จล่าช้าไปด้วย อันนี้เป็นใบนัดรับนะครับ ติดปัญหาตรงไหนไหมครับ" เตโชก้มลงเขียนข้อมูลขยุกขยิกไปมา ก่อนจะส่งมันให้เขาหนึ่งใบและเจ้าตัวเก็บไว้เองอีกหนึ่งใบ นำไปใส่ในซองพลาสติกใสเพื่อกันน้ำ และหย่อนลงตะกร้าพร้อมป้ายหมายเลขกำกับ

เขาพยักหน้าพอใจให้กับการทำงานที่เป็นระบบระเบียบของอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยปากถามเรื่องราคา และจัดการชำระเงินให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากร้านมา ชายหนุ่มก็ชะงักราวกับนึกขึ้นได้ หันมาร้องบอกคนที่ทำหน้าที่รับเรื่องจากเขาไปเชิงแนะนำ ซึ่งมันอาจจะทำให้การบริการของที่นี่ดียิ่งขึ้นไปอีก

"คุณควรจะหากริ่งมาตั้งให้ลูกค้า หากคุณติดงานอยู่ข้างใน หรือถ้าคุณมีกำลังทรัพย์เพียงพอก็จ้างคนมาคอยเฝ้าหน้าร้านและรับเรื่องแทนนะ คุณจะได้ไม่ต้องวิ่งออกมาเองทุกครั้งแบบนี้"

"รับทราบครับ ผมจะนำไปปรับปรุงแก้ไขนะครับ ขอบคุณที่ช่วยแนะนำให้ครับ" เตโชพูดด้วยรอยยิ้ม ไร้ความโกรธเคืองในดวงตา เป็นการบ่งบอกว่าอีกฝ่ายเต็มใจรับคำแนะนำติชมด้วยใจจริง

"ผมหวังว่ามันจะมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นนะครับ" สิงหราชยกยิ้ม ก้มศีรษะลงครั้งหนึ่งเชิงบอกลา แล้วจึงหันหลังเดินกลับขึ้นไปที่ด้านบนคอนโด เพื่อมุ่งตรงกลับห้องของตน

เตโช หรือ เต ก้มลงมองตะกร้าผ้าในอ้อมแขนทั้งสองใบ ตะกร้าใบแรกเป็นชุดของผู้ชายทำงานออฟฟิศทั่วไป มีทั้งกางเกงสแลก เสื้อเชิ้ตหรือสูท ส่วนอีกตะกร้านั้นมีทั้งบราเซีย กางเกงใน ถุงน่อง ถุงเท้า ผสมปนเปกันไป จนอดที่จะเอ่ยปากไม่ได้

"เขาคงรักแฟนของเขาน่าดูเลยน้าาาาา"

บทถัดไป